ระดับน้ำในแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

การจราจรคับคั่งและเรือบรรทุกติดขัดกำลังอุดตันหลอดเลือดแดงวิกฤตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากภัยแล้งที่ยืดเยื้อ

ท่าเรือนิวออร์ลีนส์ระบุว่า มีการขนส่งเสบียงประมาณ 500 ล้านตันตามแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ทุกปี โดยมีมูลค่าการค้า 130,000 ล้านดอลลาร์ตามรายงานของท่าเรือนิวออร์ลีนส์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร เช่น ข้าวโพดและถั่วเหลือง รวมถึงผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง ลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ผลิตสินค้าเกษตรส่งออกของสหรัฐฯ มากกว่า 90% ตามรายงานของ National Park Serviceและเกือบ 80% ของการส่งออกธัญพืชของโลก

แต่สิ่งที่กำลังจะหยุดนิ่งท่ามกลางสภาพแห้งแล้งครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้แม่น้ำไม่สามารถข้ามผ่านสำหรับเรือขนส่งสินค้าส่วนใหญ่ได้ ระดับแม่น้ำขณะนี้อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษหลังจากปริมาณน้ำฝนที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กลายเป็นอุปสรรคต่อห่วงโซ่อุปทานล่าสุดที่โจมตีสหรัฐฯ

“อเมริกาจะปิดตัวลงถ้าเราปิดตัวลง” Mike Ellis ซีอีโอของ American Commercial Barge Line ในรัฐอินเดียนากล่าวกับWall Street Journalในสัปดาห์นี้การจราจรติดขัดในแม่น้ำระดับน้ำที่ต่ำได้อุดตันทุกส่วนของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความหายนะให้กับเศรษฐกิจในท้องถิ่น

บลูมเบิร์กรายงาน โดยอ้างข้อมูลจากหน่วยยามฝั่งสหรัฐ มีเรือบรรทุก อย่างน้อย2,000 ลำสำรองตามแม่น้ำ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยยามฝั่งได้เตือนว่าเรือบรรทุกหนักอย่างน้อยแปดลำได้ ” หยุด นิ่ง ” ในส่วนที่ตื้นโดยเฉพาะของแม่น้ำ

ด้วยเรือจำนวนน้อยลงที่สามารถแล่นไปตามแม่น้ำและเวลารอที่นานขึ้น ราคาจึงเริ่มสูงขึ้น

“มันมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างแน่นอน เพราะการใช้แม่น้ำสายนี้ในเชิงพาณิชย์ได้หยุดลงแล้ว” จอร์จ แฟลกส์ นายกเทศมนตรีเมืองวิกส์เบิร์ก มิสซิสซิปปีบอกกับสถานีข่าวท้องถิ่น WAPTเมื่อต้นสัปดาห์นี้ และเสริมว่าแม่น้ำรอบๆ วิกส์เบิร์กคือ ต่ำที่สุดที่เขาเห็นในรอบเกือบ 70 ปี

“สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อเราในทางลบอย่างมาก เราต้องบรรทุกสินค้าบนเรือบรรทุกน้อยลงและขนย้ายน้อยลง มันส่งผลต่อรายได้ของเรา” Austin Golding ประธาน Golding Barge Line กล่าวกับ WAPT

 

 

 

Releated